ขั้นตอนการทำร่มบ่อสร้าง |
![]() |
|||||||||||||||||
1.การทำซี่ร่มหลังจากได้ไม้ไผ่มาแล้งก็นำเอามาตัดออกเป็นท่อนๆถ้าเป็นไม้ไผ่ที่มีปล้องยาวก็ตัดระหว่างข้อแต่ถ้าเป็น ไม้ปล้องสั้นก็ตัดให้ข้อไม้อยู่ตรงกลางความยาวของท่อนไม้ที่ตัดเท่ากับขนาดของร่มที่จะทำ เช่น ทำร่มขนาด 20นิ้ว ก็ตัดไม้ไผ่ยาว 20นิ้วเป็นต้นเมื่อตัดไม้ไผ่เป็นท่อนยาวแล้วก็ใช้มีดขูดผิวไม้ออกให้หมดแล้วทำเครื่องหมาย สำหรับเจาะรูไว้ เจาะรูแล้วร้อยติดกันเรียง |
![]() |
|||||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||||||
![]() |
![]() |
![]() |
||||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||||||
2.จากนั้นก็นำมาประกอบเป็นโครงร่ม การทำโครงร่มประกอบด้วยส่วนต่างๆดังนี้ - หัว ,ตุ้ม ทำจากไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้ตีนเป็ด, ไม้สันเห็ด, ไม้ตุ้มคำ และ ไม้แก - ค้ำ ซี่กลอน ทำจาก ไม้ไผ่ตง เพราะเหนียวและทนทาน ใช้สำหรับทำโครงร่ม - คันถือ ทำจาก ไม้ไผ่เล่มเล็ก หรือ ไม้เนื้ออ่อนก็ได้ - ม้า (สลัก) ทำจากสำหรับร่มเล็กทำด้วยสปริงเหล็ก ส่วนร่มใหญ่ทำด้วยไม้ไผ่เหลา - ปลอกลาน ทำจาก ใบลาน ทำหน้าที่เป็นตัวเคลื่อนขึ้น–ลง เวลากางหรือหุบร่ม |
![]() |
|||||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||||||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
||||||||||||||
![]() |
![]() |
![]() |
||||||||||||||||
3.ทากาวและเอากระดาษสีขาวบุลงไป ตามด้วยกระดาษสีวางทิ้งไว้ให้แห้งกลเม็ดเคล็ดลับ อยู่ที่การใช้แป้งเปียก ผสมน้ำมะโก้ติดผ้า หรือกระดาษเข้ากับร่มทำให้ติดทนนานไม่หลุดร่อนก่อนเวลาอันควร
![]() |
![]() |
|||||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||||||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||||||
![]() |
4.จากนั้นก็นำมาวาดลวดลายและสีสันบนผืนร่ม ให้สวยงาม เคล็ดลับของการลงสีให้ติดทนนาน คือเวลาลงสีน้ำมัน ที่ต้องผสม กับน้ำมันมะมื้อหรือน้ำมันตังอิ๊วที่ทำให้ร่มทนแดด ทนฝน และใช้งานได้จริงไม่ว่าหน้าฝนหรือหน้าร้อน เพราะฉะนั้นนอกจากร่มบ่อสร้างจะเป็นของที่ระลึกสวยงามแล้วยังสามารถคุ้มแดดคุ้มฝนได้เป็นอย่างดี |
![]() |
||||||||||||||||
![]() |
![]() |
|||||||||||||||||
![]() |
![]() |
![]() |
||||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||||||
วิธีการทำกระดาษสาจากเปลือกของต้นกระดาษสา นำเปลือกสาที่ได้มาแช่น้ำมาทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง หรือ น้ำไปต้มกับขี้เถ้า หรือ โซดาไฟ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง จนเห็นว่าเปื่อยแล้ว จึงนำออกมาล้างให้สะอาด แล้วนำมาทุบให้ละเอียดจนยุ่ย จึงนำไปละลายในอ่างซึ่งก่อด้วยซีเมนต์ รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดประมาณ 2 คูณ 3เมตร แล้วลึกประมาณ ½ เมตร บรรจุจน้ำ ¾ ของถัง ใช้ไม้คนให้ทั่วแล้วใช้ตะแกรงขนาดตามที่ต้องการซึ่ง ส่วนมากจะมีขนาด 40 x 60 เซนติเมตร ดักเหยื่อเปลือกไม้ในน้ำขึ้นมาแล้วนำออกมา ตากแดดให้แห้ง เมื่อเนื้อเยื่อของเปลือกสาที่ตากไว้แห้งดีแล้ว จึงค่อยลอกออกมาก็จะได้กระดาษสาเป็นแผ่นเรียกกัน ว่ากระดาษสา ซึ่งสามารถนำไปหุ้มร่มต่อได้ |
![]() |
|||||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||||||
![]() |
![]() |
|||||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||||||
![]() |
![]() |
|||||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||||||
![]() |
![]() |
|||||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||||||
วิธีหุ้มร่มร่มกระดาษสาหรือร่มผ้าฝ้าย คลุมร่มด้วยกระดาษสาหรือผ้าฝ้ายบาง โดยใช้แป้งเปียกที่ผสมกับยางของผลตะโก ซึ่งได้จากการทุบตะโกให้ละเอียด แล้วนำไปดองไว้ประมาณ 3 เดือนจึงนำออกมาใช้ น้ำยางตะโกจะช่วยให้ผ้าหรือกระดาษมีความกระชับ เมื่อตากแห้งแล้วนำมาลงสีด้วยที่ผสมด้วยน้ำมันยางพื้นบ้าน เรียกว่า น้ำมันตังอิ๊ว (น้ำมันมะหมื้อ) การทาสีร่มนี้ทำ โดยการใช้ผ้าชุบสีกลึงบนร่มที่ต้องการ สมัยก่อนมีเพียง 2 สีเท่านั้นที่ทาร่ม คือสีแดงและสีดำ สีแดงได้จากการ นำสีของดินแดงที่มีอยู่บนภูเขา ส่วนสีดำนั้นได้มากจากเขม่าไฟผสมน้ำมันยาง นอกจากผ้าฝ้ายหรือร่มกระดาษสาแล้ว ยังสามารถใช้ผ้าไหม ผ้าแพร หรือวัสดุหลายชนิดมาหุ้มร่มได้อีก ![]() |
![]() |
|||||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||||||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
|||||||||||||||
![]() |
![]() |
|||||||||||||||||
![]() |
![]() |
![]() |
||||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||||||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |