หลายคนมักพููดว่าเกิดเป็นผู้ชายแต่งตัวง่าย เพราะมี
เครื่องแต่งกายให้เลือกไม่มาก แต่อาจจะไม่จริงเสมอไปเพราะยุค
นี้เสื้อผ้าแฟชั่นของผู้ชายมีมากมายเยอะเหลือเกิน ที่สำคัญคือ
ถ้าอยากดูดีและเป็นที่สนใจของสาว ๆ จะให้แต่งตัวแบบเดิม
คงไม่เข้าตากรรมการ โดยเฉพาะรองเท้าถือเป็น item ที่สาว ๆ ส่วนใหญ่บอกว่า เธอจะตัดสินว่า ผู้ชายคนนี้มีสไตล์หรือลักษณะ
นิสัยอย่างไร เธอสามารถดูได้จากรองเท้าของเรา ถ้าเป็นแบบนี้
จะให้ใส่รองเท้าคู่ใจคู่เดียวไปตลอดคงไปไม่รอด แต่อย่าเพิ่งกังวล
ใจไป วันนี้เรานำรองเท้า แต่ละแบบ แต่ละสไตล์ ที่คุณควรมี
เพื่อให้เข้ากับชุด และโอกาสนั้น ๆ ของคุณ พร้อมกับเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยแมทรองเท้ากับการแต่งกายของคุณ
  จุดเด่นของรองเท้า Brogue คือลายฉลุ บนรองเท้า ต้องบอกเลยว่า รองเท้าประเภทนี้เป็นรองเท้าที่มีความ
คลาสสิคสูงเพราะถือว่าเป็นประเภทของรองเท้าที่มี
ประวัติศาสตร์ยาวนาน มาจากสก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์ โดยสาเหตุที่ต้องมีฉลุ ก็เพราะแต่เดิมนั้นมี
ไว้ใส่ในชนบท เดินลุยแอ่งน้ำ แอ่งโคลน น้ำในชนบท
เลยต้องมีรู ไว้ระบายน้ำออก แต่ภายหลังก็ถูก
นำมาใส่เป็นเครื่องแต่งกายสำหรับคนเมืองกับสูท และมีความเป็นทางการมากขึ้น อันที่จริงแล้ว Brogues ก็ยังมีทรงแยกย่อยไปเป็น Full Brogue หรือที่เรียกอีก
อย่างว่า Wingtip ตามที่เห็นในภาพ แล้วก็มี Semi brogue ซึ่งมีลักษณะร่วมสมัยมากขึ้น
  รองเท้าสไตล์ Oxford จะคล้ายๆกับสไตล์ Brogues
และ Derby แต่เอกลักษณ์ของรองเท้าสไตล์นี้หลัก ๆ คือ การมีกระดุมรูร้อยเชือกที่ถูกเย็บไว้ข้างใต้ตัว vamp หรือส่วนที่เป็นหนังรองเท้าตอนบนอยู่ติดกับลิ้นรองเท้า ในขณะที่รองเท้าสไตล์ Derby หรือ Brogues ทั่วไปจะมี
กระดุมรูร้อยเชือกเย็บติดไว้ให้มองเห็นได้จากด้านบน
รองเท้า Oxford ถือกำเนิดขึ้นที่ประเทศสก๊อตแลนด์ และไอร์แลนด์เหมือนกัน แต่ต่อมาในช่วงปี ค.ศ. 1800 ได้ถูกเรียกว่ารองเท้า “Oxford” เพราะเหล่านักศึกษา
จากมหาวิทยาลัย Oxford ประเทศอังกฤษนิยมนำมาใส่
  รองเท้าสไตล์ Derby หรือที่ในอเมริกาเรียกว่า
Blucher ก็เป็นรองเท้าในตระกูล Brogues เหมือนกับ
รองเท้า Oxford แต่จุดเด่นของรองเท้าก็คือกระดุม
รูร้อยเชือกถูกเย็บติดไว้กับตัว vamp ให้มองเห็นจาก
ด้านบน แต่เดิมในช่วงปี ค.ส. 1850s รองเท้าสไตล์นี้
เป็นที่นิยมสำหรับใส่ไปเดินป่า ล่าสัตว์ แต่ภายหลัง
คนก็นิยมนำมาใส่ในเมืองมากขึ้น สังเกตุได้ว่ารองเท้า
ส่วนมากจะมีหัวแบบ full closure หรือหัวรองเท้า
ที่เป็นชิ้นเดียว ไม่มีการแยกเป็นแบบ toe cap ดังนั้นรองเท้าสไตล์นี้จะมีความเรียบมากกว่า
รองเท้าสไตล์ Oxfordเหมาะสำหรับใส่คู่กับสูทสีเข้ม
ดูเป็นทางการหน่อยเวลาไปทำงาน หรือในวาระโอกาสอื่น ที่มีความเป็นทางการต้องแต่งตัวเรียบร้อย

ที่เรียกกันว่า Wingtips เป็นลักษณะของรองเท้า
ที่แตกย่อยออกมาจากรองเท้าสไตล์ Brogues ดูได้ง่ายๆ
คือลักษณะของหัวรองเท้า ถ้ามองจากด้านบน จะมี
ลักษณะคล้ายตัวอักษร “W” ซึ่งดูเหมือนกับปีกนก ส่วนใหญ่คนคิดว่าถ้ารองเท้ามีดีไซน์ที่มีสีตัดกันสองสี จะต้องเรียกว่าเป็นรองเท้า Wingtips แต่จริงๆแล้ว
เรื่องสีไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกับชื่อของรองเท้า
สไตล์ดังกล่าว เพราะรองเท้า Wingtips แบบสีเดียว
ทั้งคู่ก็มีให้เลือกมากมาย

 

 

รองเท้าสไตล์นี้เรียกอีกอย่างว่า “monk shoe” เป็นรองเท้าสไตล์บาทหลวงที่ต่อมาได้รับความนิยมใส่กัน
อย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน มีทั้งแบบหนัง
และแบบหนังกลับ ลักษณะเด่นของรองเท้าสไตล์นี้
เป็นแบบสายรัดสองเส้น ไร้เชือก เป็นรองเท้าแบบ
ทางการ แต่ก็ยังมีความเป็นทางการน้อยกว่ารองเท้า
Oxford นิดหนึ่ง เหมาะสำหรับใส่กับสูทหรือยีนส์
แล้วแต่ว่าจะมิกซ์แอนด์แมทช์

 

Loafers หรือเรียกอีกอย่างว่า Slip-on คือรองเท้า
สวม ที่ไม่มีเชือก ในอดีต รองเท้าสวมถือว่าเป็นรองเท้า
ที่มีความเป็นทางการน้อยกว่ารองเท้าที่มีเชือกมาก แต่ในปัจจุบันก็เป็นนิยมกันแพร่หลายที่จะใส่รองเท้า
จำพวก loafers นี้กับสูทมากขึ้น สาเหตุที่รองเท้าประเภท
นี้เรียกว่า Penny Loafer ก็เพราะ ในอดีต เด็กวัยรุ่น
อเมริกันชอบนำเหรียญ Dime หรือ เหรียญ 10 เซ็นต์
สอดไว้ในช่องด้านหน้าของรองเท้าประเภทนี้ เพื่อไว้
หยอดตู้โทรศัพท์ หรือขึ้นรถบัสกลับบ้าน แต่ภายหลัง
บางคนได้เปลี่ยนมาเป็นเหรียญ Penny ขัดเงามาใส่
เพื่อความเท่ (เพียงอย่างเดียว ไม่มีสาเหตุอื่นเลย)

 

 

Tassel Loafers ก็เป็น Loafers อีกประเภทหนึ่ง
ที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง จุดเด่นคือ พู่
ห้อยด้านหน้า ที่ทำให้รองเท้าโดยรวมดู soft ลง ลดความแข็งของ Loafers ที่ดูดุดันจนเกินไป ขอบอกเลยว่า Tassel Loafers เป็นรองเท้าที่นำมาใส่กับ
ลุค casual แล้วทำให้ look โดยรวมของคุณดูมีสไตล์
ขึ้น โดยเฉพาะกับ Tassel ประเภทหนังกลับที่สามารถ
เอามาแต่งเป็นลุค casual ได้อย่างลงตัว

 

Boat shoes หรือที่เรียกอีกอย่างว่า deckshoes ชื่อก็บ่งบอกว่าถูกผลิตออกมาเพื่อไว้ใส่บนเรือ ทรงของมันถูกออกแบบมาเพื่อให้ยึดติดกับพื้นเรือ หนังก็จะถูกเคลือบให้กันน้ำ แต่พอมายุคหลัง ก็เป็นการ
ใส่กับชุด casual ทั่วๆ ไป จุดเด่นคือ ความสบายและให้
ความรู้สึก casual โดยส่วนมากแล้ว boat shoes จะไม่
ใส่กับถุงเท้า

 

  รองเท้า Slippers ซึ่งโดยมากที่เราเห็นจะเป็น
Velvet Slippers หรือ รองเท้าสวมกำมะหยี่ และลายปัก อยู่ตรงข้างหน้า รองเท้า slippers นี้ เดิมทีมีไว้ใส่
ในบ้าน แต่ภายหลังก็ถูกดีไซน์เนอร์นำมาทำเป็นรองเท้า ใส่ในชีวิตประจำวัน ทำเป็นรองเท้าแฟชั่น ใส่ได้ทั้งลุค เป็นทางการและไม่เป็นทางการ จุดเด่นของมันคือ ความสบายในการสวมใส่ และมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์

Desert boots ที่แปลว่า ทะเลทรายนั่น ผลิตออกมาครั้งแรกเพื่อทหารที่ไปรบในตะวันออกกลาง อันที่จริงแล้ว Desert boots เป็นประเภทย่อยของ Chukka boots ซึ่งก็คือ บู๊ท หุ้มข้อที่ไม่สูงมาก แต่ ข้อแตกต่าง ก็คือ Desert boots พื้นรองเท้าจะทำมาจาก ยางพารา เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินย่ำไป บนทราย จุดเด่นของรองเท้าประเภทนี้คือ ลักษณะความ ดิบ ความดุดัน ความเป็นบุรุษเพศ บวกกับการแต่งตัว แบบพวก workwears หรือ อะไรที่ดูแมน ๆ ดูเหมาะมาก โดยเฉพาะนำไปใส่กับ raw denim ทรง straight

 

 

รองเท้า Chelsea เป็นรองเท้าบู๊ทหุ้มข้อ ที่มีเรื่องราว
สืบมาตั้งแต่สมัย Victorian จุดประสงค์มีไว้สำหรับ
ใส่ขี่ม้า จนภายหลังก็กลายมาเป็นเครื่องแต่งกายในชีวิต ประจำวัน ถือว่าเป็นรองเท้าที่มีประวัติ
ยาวนาน และอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ลักษณะเด่นคือ
เป็นรองเท้าบู๊ทประเภทสวม ไม่มีเชือก สังเกตได้ชัดคือ ผ้ายืดตรงด้านข้างของรองเท้า ที่ไว้ช่วยสร้างความยืดหยุ่น เวลายัดเท้าเข้าไป รองเท้าประเภทนี้เป็นรองเท้าที่มีความ Versatile หรือ นำไปใช้ได้ในหลายๆโอกาส ทั้งการแต่ง แบบทางการ และลำลองกับ Blue jeans อีกทั้งยังสวมใส่ แล้วกระชับ พอดีเท้า ไม่มีการที่เชือกจะมาหลุด ทำให้รำคาญใจ

 

จะเห็นได้ว่าสไตล์รองเท้าทางการที่ผู้ชายทุกคนควรทำความรู้จัก
ไว้เป็นขั้นพื้นฐาน ถือเป็นสิ่งที่สำคัญพอสมควร คือไม่ว่าคุณเลือกที่จะสวมใส่ หรือชื่นชอบรองเท้าสไตล์ไหน คุณก็สามารถใส่มันให้ออกมาดูหล่อได้ ถ้าคุณรู้จักวิธีเลือกให้เหมาะกับชุด และวาระโอกาสต่างๆ รวมถึงรู้จักหมั่นดูแลรักษาทำความสะอาดรองเท้าอยู่เป็นประจำ เราเชื่อว่าการที่ผู้ชายมีรองเท้าหนัง smart shoes ติดตู้ไว้อย่างน้อยสักหนึ่งคู่ ก็เหมือนกับการที่ผู้หญิงมีรองเท้าส้นสูงอย่างดีติดตู้ เพราะรองเท้าที่ดีจะช่วยเสริมบุคลิก
และลุคของคุณให้ดูดีและน่าเชื่อถือทุกองศา ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะยอมลงทุนกับมันหรือเปล่าเท่านั้นเอง